test1
แปะก๊วย งานวิจัยและสรรพคุณ 17 ข้อ
ชื่อสมุนไพร แปะก๊วย
ชื่ออื่นๆ หยาเจียว (จีน) อิโจว(ญี่ปุ่น)
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Gingko biloba L.
ชื่อวงศ์ Ginkgoaceae
แปะก๊วย
ถิ่นกำเนิดแปะก๊วย
แปะก๊วยมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน เชื่อกันว่าเป็นพืชที่เก่าแก่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง ที่หลงเหลืออยู่ในประเทศจีน ซึ่งเป็นพืชที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ โดยพบอยู่ในธรรมชาติไม่กี่ต้น ต่อมามีการนำต้นแปะก๊วยไปปลูกในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี และในราวศตวรรษที่ 18 ได้มีการปลูกในทวีปยุโรป ปัจจุบันต้นแปะก๊วยเป็นไม้ให้ความร่มเงาตามแถวถนนและสวนสาธารณะทั่วไปทั่งในยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา
ประโยชน์และสรรพคุณแปะก๊วย
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
สามารถชะลอความแก่ได้
ฤทธิ์การยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือดทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
ฤทธิ์เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง
ทำให้เลือดไหลฉีดไปตามผิวหนังได้ดี
ฤทธิ์เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้
ฤทธิ์ยับยั้งการเกิดไลปิดเพอรอกไซด์
ฤทธิ์ช่วยให้ความจำดีขึ้น
ฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดหดตัว
ฤทธิ์เพิ่มการมองเห็น
ฤทธิ์ยับยั้งการเสื่อมของสมอง
เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ
จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น
แก้ไขปัญหาเลือดไปไหลเวียนในบริเวณอวัยวะเพศไม่สะดวก
บรรเทาอาหารของโรคพาร์กินสัน
สามารถผลิตฮอร์โมนโดปามีนได้มากขึ้น
รูปแบบและขนาดวิธีใช้แปะก๊วย
• สารสกัดใบแปะก๊วยแห้ง –ใช้ 120 – 240 มิลลิกรัม แบ่งให้วันละ 2 – 3 ครั้ง สำหรับอาการ dementin โดยให้ยาติดต่อกัน 8 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 3 เดือน
• สารสกัดใบแปะก๊วยแห้ง – ใช้ 120 – 160 มิลลิกรัม แบ่งให้วันละ 2 – 3 ครั้ง สำหรับรักษาอาการเส้นเลือดแดงส่วนปลายประสาทอุดตัน และ ความมึนงง มีเสียงในหู โดยให้ยาติดต่อกัน 6 – 8 สัปดาห์
• ในการใช้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ให้ใช้รับประทานใบแปะก๊วยไม่เกินวันละ 120 มิลลิกรัม
ลักษณะทั่วไปแปะก๊วย
ต้นแปะก๊วยเป็นไม้ยื่นต้นขนาดใหญ่อาจสูงได้ถึง 35 – 40 เมตร ต้นโตเต็มที่มีเส้นรอบวงประมาณ 3 – 4 เมตร และอาจโตได้ถึง 7 เมตร ใบเป็นใบเดียว ลักษณะคล้ายกับใบบัวบก กว้าง 5 – 10 เซนติเมตร ก้านใบยาว ใบแก่มีรอยหยักเว้าตรงกลาง ใบออกเวียนสลับกัน หรือออกเป็นกระจุกตามปลายกิ่ง เส้นใบขนานกันจำนวนมาก ใบอ่อนเป็นสีเขียว สามารถเปลี่ยนเป็นสีเข้มได้เมื่อโตเต็มที่ และเป็นสีเหลืองในฤดูใบไม้ร่วง ต้นแปะก๊วยจะมีต้นตัวผู้ และต้นตัวเมีย ซึ่งลักษณะแตกต่างกัน เหมือนกับกำลังพญาเสือโคร่ง ที่กำลังเป็นที่พูดถึงและนิยมนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านอาหารและสมุนไพร
การขยายพันธุ์แปะก๊วย
ปัจจุบันขยายพันธุ์โดยวิธีการ เพาะเมล็ด , ปักชำ , ทาบกิ่ง การปลูกแปะก๊วยโดยวิธีการเพาะเมล็ด มีดังนี้
สมุนไพรแปะก๊วย
• ล้างเมล็ดแปะก๊วยในน้ำอุ่นให้สะอาดเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา
• หมกเมล็ดที่ล้างแล้ว ในขุยมะพร้าวหรือขี้เถ้าแกลบในถุงซิบล็อก ปิดถุงให้สนิท แล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น (ช่องเก็บผัก) ประมาณ 12 อาทิตย์ ช่วงนี้ให้คอยหมั่นตรวจดูว่ามีต้นอ่อนเริ่มแตกออกมาหรือยัง ถ้ามีเมล็ดไหน
รากแปะก๊วยงอกก่อน 12 อาทิตย์ ก็แยกออกมาเพาะก่อน
• ให้นำเมล็ดที่งอกก่อนมาเพาะในถุงชำ ใช้ดินถุงที่ขายทั่ว ๆ ไป ฝังเมล็ดแปะก๊วยลงไปประมาณ 2 นิ้ว วางถุงเพาะชำให้โดนแดดอ่อน ๆ ให้ดินที่
เพาะเมล็ดชื้ออยู่ตลอดเวลาแต่อย่าให้แฉะ หลังจากนั้นก็รอให้ต้นเขาโตขึ้นมาก่อนที่จะนำไปปลูกลงดิน
• สำหรับเมล็ดที่ไม่งอกก่อนกำหนด พบครบ 12 อาทิตย์ในตู้เย็นก็ออกมาเพาะต่อตามข้อ 3
องค์ประกอบทางเคมีของแปะก๊วย
ใบแปะก๊วย มีสารประกอบทางเคมีมากมาย แต่ที่สำคัญมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ เทอร์ปีนอยด์ (terpenoids) มีสารประกอบที่สำคัญชื่อ กิงโกไลด์ (ginkgolide) และมีบิโลบาไลด์ (bilobalide) และอีกกลุ่มคือ ฟลา-โวนอยด์ (flavonoids) นอกจากนี้ยังพบในพวกสารสตีรอยด์ (steroide) อนุพันธ์กรดอินทรีย์และน้ำตาล